ฟุตบอลฟีฟ่า2018 กลุ่ม A
สนาม ซามาร่า อารีน่า
จันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2561
กรรมการ มาลัง เดียฌิอู
อุรุกวัย2-0รัสเซีย
รายชื่ผู้ทำประตู
1-0 หลุยส์ ซัวเรซ 10′
2-0 เดนิส เชรีเชฟ 23′ (Og.)
3-0 เอดินสัน คาวานี่ 90′
ไฮไลท์ ฟุตบอลฟีฟ่า 2018
เรียกว่าเก่งบวกเฮงสำหรับอุรุกวัย พวกเขาได้ประตูออกนำเร็วจากฟรีคิกของ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อน ดิเอโก้ ลาซาลท์ มาซัดแฉลบ เดนิส เชรีเชฟ ทำเข้าประตูตัวเองไปอีกดอก แถมรัสเซียเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกเพราะ อิกอร์ สโมนิลอฟ โดนสองเหลือง ท้ายเกม เอดินสัน คาวานี่ มายิงย้ำชัย 3-0 ทำให้อุรุกกวัยแซงเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม A ทันที
ทั้งสองทีมนั้นควงกันเข้ารอบน็อคเอาท์ไปแล้วแต่เกมนี้คือศึกชิงแชมป์กลุ่ม วันนี้อุรุกวัยมาเน้นสดๆส่งซัวเรซ ดาวยิงแห่งศึก ลา ลีกา สเปน ของ บาร์เซโรนา ยืนหน้าคู่คาวานี่เลย ขณะที่รัสเซียก็ยังเน้นเหมือนกันแต่วันนี้ไม่ได้ส่งสตาร์อย่างโกโลวินลงและใช้ซูบ้ายืนหน้าเป้าโดยมีเชรีเชฟ,ซาเมดอฟ,มิรานชุคคอยหนุน
– คู่นี้เจอกันหนเดียวในเกมกระชับมิตรซึ่งเสมอกัน 1-1 เมื่อ 25 พ.ค. 2012 โดย หลุยส์ ซัวเรซ ยิงขึ้นนำนาที 48 ก่อนถูก อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ ทวงคืนทันควันในหนึ่งนาทีต่อมา
– อุรุกวัยคว้าชัย 5 นัดติดต่อกันโดยไม่เสียประตูเลย (ยิง 8 ประตู)
– อุรุกวัยคว้าชัยตลอด 3 เกมบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก)
– นับเฉพาะเกมบอลโลกรอบสุดท้าย อุรุกวัยชนะ 4 ซึ่งยิงได้ 5 เสียลูกเดียวจาก 5 เกมหลังสุด (แพ้ 1)
– อุรุกวัยไร้พ่ายตลอด 6 เกมบอลโลกหลังสุด (รวมรอบคัดเลือก) ชนะ 4 เสมอ 2
– รัสเซียคว้าชัยตลอด 2 เกมบอลโลกหลังสุด
– รัสเซียชนะรวด 2 นัดจาก 7 เกมก่อนหน้ารวมหาชัยชนะไม่เจอเลย (เสมอ 3 แพ้ 4)
นาที 1 โอกาสแรกของเกมเป็นอุรุกวัยที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะที่เวซิโน่ได้บอลนอกกรอบเขตโทษกว่า 30 หลา ก่อนตัดสินใจกดด้วยขวา บอลพุ่งแรงและต่ำและเหมือนจะหลุดกรอบด้วยแต่อคินเฟเยฟเอาชัวร์พุ่งรับไว้ก่อน
GOAL !!!!!(football)
นาที 10 อรุกวัยได้ฟรีคิกตรงหัวกะโหลกเยื้องไปทางซ้ายมือ เป็นซัวเรซที่รับหน้าที่ยิงผ่านกำแพงยัดไปทางเสาสอง อคินเฟเยฟเหมือนจะโดนบังแถมทิ้งน้ำหนักไปอีกฝั่งแล้วทำให้เขาพุ่งไปเซฟไม่ทัน บอลตุงตาข่าย 1-0 สำหรับจอมโหด
นาที 12 หลังเสียประตูรัสเซียพยายามโหมเอาคืน และเป็นจังหวะที่ซูบ้าโขกชงให้เชรีเชฟได้ดีดยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษแต่บอลไปตรงตัวมุสเรล่า
นาที 18 อีกครั้งที่รัสเซียน่าได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่เชรีเชฟเตะมุมทางฝั่งซ้ายไปทางเสาสองแล้วซูบ้าเบียดเทคโหม่งบอลลงพื้นแต่ก็เด้งข้ามคานออกไป
GOAL !!!!(football)
นาที 23 แล้วเล่นไปเล่นมาอุรุกวัยมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะที่ลาซาลท์ได้วางเท้ากดด้วยซ้ายจากแถวสองหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปแฉลบเชรีเชฟก่อนเด้งเปลี่ยนทางกลิ้งเสียบเสาฝั่งซ้ายเข้าไปแบบมีดวง
นาที 28 อุรุกวัยน่าประตูทิ้งห่างเป็นลูกที่สาม จังหวะที่ซัวเรซพาบอลจี้ไปปที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงให้เบนทานคูร์หลุดไปซัดด้วยขวาในกรอบแต่ไปตรงตัวอคินเฟเยฟที่ออกมาบล็อคไว้ทัน
นาที 36 เล่นไปเล่นมารัสเซียเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่สโมนิิลอฟไปเข้าบอลช้าใส่ลาซาลท์ ผู้ตัดสินไม่คิดมากแจกใบเหลืองที่สองให้เขาทันที ทำให้เจ้าภาพสถานการณ์แย่ไปใหญ่
นาที 45+3 จบครึ่งแรกเป็นอุรุกวัยที่เหนือกว่าทุกทางนำไปก่อน 2-0 แถมเหลือตัวผู้เล่นมากกว่าเพราะรัสเซียมีสโมนิลอฟที่โดนสองใบเหลืองโดนไล่ออกไปอาบน้ำก่อนใครเพื่อน
นาที 60 เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง รัสเซียเปลี่ยนตัวครบโควต้าหลังส่งสโมลอฟลงสนามไปเล่นแทนมิรันชุค พวกเขายังพยายามบุกเพื่อเอาประตูตีไข่แตกแม้จะเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าก็ตาม
นาที 69 อุรุกวัยทิ้งบอลให้คาวานี่ไปเอาทางกรอบฝั่งซ้าย ก่อนที่เขาจะพาลากตัดเข้าไปกลางแล้วกดด้วยขวา บอลไปแฉลบบล็อกหลุดเสาสองอย่างน่าเสียดาย
นาที 74 รัสเซียได้โอกาสทองที่จะทำประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่มุสเลร่าออกบอลพลาดไปเข้าทางซอบนินที่ดักได้แล้วจ่าออกให้ซูบ้าทางกรอบฝั่งขวา ซูบ้าล็อคเข้าซ้ายแล้วกดทันทีแต่บอลพุ่งหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 82 อุรุกวัยพยายามบุกเพื่อเอาประตูปิดจ็อบ จังหวะนี้โรดริเกซที่เพิ่งลงมาใหม่พกกำลังขามาเต็มที่ เขาลองซัดด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ส่ายไปตรงตัวอคินเฟเยฟ
นาที 86 คาวานี่ได้บอลทางกรอบฝั่งขวา เขาพยายามลากตัดเข้ากลางโดยมีตัวเข้าสกัดถึงสามคน เขายังเอาตัวรอดได้ยิงด้วยซ้ายแต่ก็ไปติดบล็อคเด้งข้ามคานออกไปอยู่ดี
นาที 89 ท้ายเกมอุรุกวัยมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่โรดริเกซยิงหักข้อจากหน้ากรอบฝั่งซ้าย บอลตรงกรอบแต่อคินเฟเยฟยังปัดออกหลังไปได้
GOAL !!!!(football)
นาที 90 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาของอุรุกวัย อาร์ราสเกต้าครอสเข้ากลางให้โกดินโขกเน้นๆไปติดเซฟอคินเฟเยฟ แต่ไม่พ้นอันตรายก่อนที่คาวานี่จะซ้ำจ่อๆเข้าไป
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
