บิลเบา ทำอย่างไร จนกลายเป็นทีมแข็งแกร่ง ดุดัน แพ้ยาก ใน ลา ลีกา 2025
แอธเลติก บิลเบา ของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ได้แสดงให้เห็นแนวทางแทคติกที่ผสมผสานการป้องกันที่มีระเบียบวินัยเข้ากับการเล่นที่รวดเร็วและรุกดุดันในสไตล์ของพวกเขาที่ทำให้รั้งหัวตาราง ลา ลีกา 2025 ในซีซั่นนี้
ปัจจุบัน บิลเบา อยู่อันดับ 4 ของตารางฟุตบอลลีกแดนกระทิงดุ เก็บไปแล้ว 45 แต้ม จาก 24 เกมด้วยผลงานชนะ 12 เสมอ 9 และแพ้ไป 3 เกม ถือเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่ บิลเบา มีผลงานได้น่าประทับใจในฟุตบอลลีกสเปน
จากฟอร์มการเล่นที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาเป็นที่น่าเกรงขามต่อคู่แข่งใน ลา ลีกา ยิ่งประสบการณ์และความเข้าใจของบัลเบร์เด้เกี่ยวกับสไตล์การเล่นแบบดั้งเดิมของ บิลเบา ก็ทำให้เขาสามารถสร้างทีมที่ทั้งมีความยืดหยุ่นและสร้างสรรค์เกมได้ดี บัลเบร์เดเป็นที่รู้จักจากความสามารถในการปรับตัวให้เขากับแทกติกและความเข้าใจเชิงกลยุทธ์ที่เฉียบแหลม
การเข้ามาของเขาได้เสริมเติมแต่งให้ระบบของ บิลเบา มีจุดแข็งมากขึ้น ตั้งแต่การเพรสซิ่งที่มีความเข้มข้นสูงไปจนถึงการเคลื่อนที่ของลูกบอลที่มีประสิทธิภาพ บิลเบา ของ บัลเบร์เด้ มีรูปแบบการเล่น และการปรับเปลี่ยนระหว่างเกมที่ส่งผลต่อสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
ระบบการเล่น 4-2-3-1 ของทีมช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่เกมรับ ขณะเดียวกันก็รักษาความลื่นไหลและทางเลือกต่างๆ ในแดนกลาง รูปแบบการเล่นที่เริ่มต้นด้วยกองหลัง 4 คน ช่วยให้สามารถควบคุมการครอบครองจากพื้นที่ในแนวลึกได้ การวางตำแหน่งมิดฟิลด์คู่โดยใช้มิดฟิลด์ตัวรับคู่กับกองกลางตัวเชื่อมเกมช่วยกำหนดจังหวะการจ่ายบอลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการวางตำแหน่งเพื่อหาประโยชน์จากช่องว่างระหว่างแนวรับของฝ่ายตรงข้าม โดยสร้างพื้นที่สามเหลี่ยมในการจ่ายบอลที่ช่วยให้ทีมเคลื่อนตัวในสนามได้อย่างราบรื่น
โดยในแนวรุกการใช้ผู้เล่น 3 คน ซึ่งมีสองพี่น้องวิลเลียมส์อย่าง อินญากี้ วิลเลียมส์ และ นิโก้ วิลเลียมส์ เป็นตัวชูโรง สร้างสรรค์เกมโดยมีจุดโฟกัสไปที่กองหน้าตัวเดียว ที่พร้อมเก็บบอลเสมอ ไม่ว่าจะจ่ายบอลโดยตรงหรือวิ่งไปด้านหลังแนวรับ ระบบนี้ยังช่วยให้ทีมเปลี่ยนจากการเล่นเกมรุกเป็นการป้องกันได้อย่างรวดเร็วเช่นกันในยามที่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับหรือโดนโต้กลับเร็ว ทั้งยังรักษาแรงกดดันต่อคู่ต่อสู้ได้ในขณะเดียวกัน
นอกจากนี้ปีกทั้งสองข้างยังมีบทบาทสำคัญในการเพรสซิ่งเซ็นเตอร์แบ็กของฝ่ายตรงข้าม ตัดช่องทางการส่งบอลไปยังฟูลแบ็กหรือวิงแบ็กของคู่แข่ง ที่จะชว่ยให้ทีมสามารถป้องกันลูกบอลคู่ต่อสู้ที่จะจ่ายเข้าแดนกลาง
กองหน้าตัวเป้ายังช่วยเสริมความพยายามนี้ด้วยการยืนต่ำเล็กน้อยเพื่อกดดันมิดฟิลด์ตัวรับของฝ่ายตรงข้าม บิลเบา วางตำแหน่งที่เอื้อต่อการบล็อกช่องผ่านบอลแดนกลางของคู่แข่ง ช่วยสร้างอุปสรรคที่จำกัดทางเลือกการจ่ายบอลของคู่ต่อสู้ได้อย่างดีเยี่ยม นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไม บิลเบา จึงแข็งแกร่งเสมอทั้งตอนครองบอล และเป็นฝ่ายรับที่ต้องไล่บอล
อีกมุมหนึ่งที่สำคัญ บัลเบร์เด้ ดันไลน์กองหลังสูงขึ้นใกล้เคียงพื้นที่กลางสนามในแดนตัวเอง สิ่งนี้ช่วยในการเชื่อมเกมที่ดีขึ้นกับช่องว่างระหว่างผู้เล่นกองหลัง และกองกลาง เนื่องจากมีช่องว่างห่างกันไม่เยอะ ขณะเดียวกันก็สามารถดักเกมรุกของคู่แข่งหรือเช็คล้ำหน้าได้ดีขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันการดันไลน์กองหลังให้สูงขึ้น ยังทำให้ บิลเบา มีผู้เล่นจากแนวรับขึ้นไปช่วยเกมในแดนกลางมากขึ้นสำหรับความต้องการไล่บี้เพื่อแย่งบอลกลับมา ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับฝ่ายตรงข้ามที่จะทำอะไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ครองบอล
แน่นอนว่า 4-2-3-1 ของ บัลเบร์เด้ เป็นที่คุ้นชินของกุนซือทีมคู่แข่งที่สามารถทำการบ้านรับมือได้ ทว่าจนถึงตอนนี้ แทคติก ของ บัลเบร์เด้ ก็ยังได้ผลเสมอ เพราะแม้จะรูประบบการเล่น แต่การปรับแทคติก หรือการเน้นย้ำให้ผู้เล่นเห็นจุดอ่อนคู่แข่งในแต่ละเกม เป็นสิ่งที่ทำให บิลเบา ยังคงเดินหน้าเก็บชัยชนะต่อไป
…และทำให้พวกเขาเข้าใกล้โอกาสจบ Top 4 ในซีซั่นนี้ด้วย
และสำหรับแฟนๆ ที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ ลา ลีกา 2025 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ข่าวฟุตบอลสเปน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
